นกเหยี่ยว ฟอลคอน is part of FrieslandCampina Professional
เบเกอรี่ เจาะลึกทุกเรื่องของโดนัทสร้างกำไร ขายได้จริง
เบเกอรี่ เจาะลึกทุกเรื่องของโดนัทสร้างกำไร ขายได้จริง

โดนัททำเงิน! เจาะลึกเทรนด์ขนมยุคใหม่ที่ขายได้จริง

เริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่ด้วยโดนัท ขนมยอดฮิตที่ต้นทุนต่ำ กำไรดี ปรับสูตรง่าย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ โอกาสทำเงินที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับนักลงทุนมือใหม่

แชร์เคล็ดลับนี้

Share
รู้หรือไม่ ทำไมโดนัทต้องมีรู้

ในยุคที่ขนมหวานไม่ได้เป็นเพียงของกินเล่นอีกต่อไป แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ ธุรกิจเบเกอรี่ โดยเฉพาะ “โดนัท” ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตา ด้วยเสน่ห์ของรูปทรงที่น่ารัก รสชาติที่หลากหลาย ความนิยมที่ไม่เคยลดลง และต้นทุนที่ควบคุมได้ง่าย ทำให้หลายคนหันมาลงทุนในธุรกิจนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็ก ๆ คาเฟ่ หรือแบรนด์ขนมออนไลน์

สำหรับใครที่ทำธุรกิจโดนัทแล้วอยากให้สินค้ามีความแตกต่างทั้งในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส นกเหยี่ยวฟอลคอนมีเทคนิคดีๆ มาแนะนำครับ โดยเฉพาะการเลือกใช้ “นมข้นจืด” และ “ข้นหวาน” วัตถุดิบสำคัญในการช่วยให้โดนัทนุ่มฟู หอมละมุน และหวานอย่างมีมิติ ซึ่งในบทความนี้จะพาคุณไปดูว่า ต้องเลือกใช้อย่างไร ในสัดส่วนเท่าไหร่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ประวัติและที่มาของโดนัท

โดนัทมีต้นกำเนิดย้อนกลับไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 19 โดยมีรากฐานจากขนมอบของชาวยุโรป เช่น olykoek ของชาวดัตช์ ซึ่งแปลว่า “เค้กมัน” ซึ่งเป็นแป้งทอดในน้ำมัน ต่อมาผู้อพยพชาวดัตช์ได้นำสูตรขนมชนิดนี้เข้าสู่สหรัฐอเมริกา และมีการพัฒนารูปร่างและรสชาติให้เป็นที่นิยมมากขึ้น เชื่อกันว่ารูปร่างแบบมีรูตรงกลางเกิดขึ้นจากการที่แป้งทอดด้านในไม่สุกทั่วถึง จึงมีการเจาะรูเพื่อให้ทอดได้สุกเท่ากันทั่วทั้งชิ้น ปัจจุบัน โดนัทกลายเป็นขนมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และมีการปรับแต่งสูตรให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละประเทศ

ทำไม “โดนัท” ถึงเป็นธุรกิจขนมที่น่าลงทุนในยุคนี้?

ทำไม ต้องโดนัท

ในยุคที่คนหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจขนาดเล็กและการเป็นเจ้าของกิจการมากขึ้น “โดนัท” กลายเป็นหนึ่ง ในเมนูขนมหวานที่ได้รับความนิยมในการเริ่มต้นลงทุน ไม่ว่าจะเป็นร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ หรือการขายแบบเดลิเวอรี่ โดนัทก็ยังคงขายดีไม่มีตกเทรนด์ ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย รสชาติถูกใจทุกเพศทุกวัย และต้นทุนที่ไม่สูง ทำให้การทำธุรกิจเกี่ยวกับโดนัทเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามอง สำหรับผู้ที่กำลังมองหาไอเดียสร้างรายได้

1. ต้นทุนไม่สูง กำไรดี

หนึ่งในข้อดีของการทำธุรกิจโดนัทคือใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายและมีราคาย่อมเยา เช่น แป้งสาลี น้ำตาล ยีสต์ ไข่ไก่ และนม ซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาส่งและจัดเก็บได้ดี ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถผลิตโดนัทจำนวนมากในแต่ละรอบการทำงาน ช่วยประหยัดเวลา และเพิ่มผลกำไรต่อรอบการผลิตได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ หากเลือกขายในรูปแบบพรีออเดอร์หรือรับออเดอร์เฉพาะวัน จะยิ่งช่วยลดต้นทุนการจัดเก็บและของเสีย ทำให้ได้กำไรที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

2. ขายง่าย เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย

“โดนัท” เป็นขนมที่กินง่าย พกพาสะดวก และตอบโจทย์ทั้งการกินเล่นและของฝาก จึงสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กในวัยเรียน วัยรุ่น นักศึกษา คนทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ การออกแบบแพ็กเกจให้โดนัทดูน่ารัก น่ารับประทาน หรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการพกพา ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาแนวทางเริ่มต้นธุรกิจขนมหวานที่ไม่ซับซ้อนและมีโอกาสเติบโตในอนาคต “โดนัท” คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งเรื่องต้นทุน ความยืดหยุ่น และความต้องการของตลาดที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

3. ปรับเปลี่ยนได้ตามกระแส

จุดแข็งอีกอย่างของโดนัท คือความยืดหยุ่นในการพัฒนาเมนู ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรูปลักษณ์ให้เข้ากับเทศกาล เช่น โดนัทวันคริสต์มาส โดนัทลายวาเลนไทน์ หรือโดนัทธีมการ์ตูนยอดนิยม ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังสามารถต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดค้นรสชาติใหม่ เช่น โดนัทไส้ชาไทย โดนัทลาวา หรือแม้แต่สูตรสุขภาพอย่างโดนัทแป้งโฮลวีต หรือโดนัทโปรตีนสูง เพื่อเข้าถึงตลาดสุขภาพที่กำลังเติบโต

วัตถุดิบสำคัญช่วยให้ “โดนัท” มีรสชาติดี

วัตถุดิบสำคัญ ช่วยให้ โดนัท มีรสชาติ นุ่ม หอม อร่อยทุกคำ

การทำโดนัทให้อร่อยและโดนใจลูกค้า ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เพียงสูตรหรือเทคนิคในการทอดเท่านั้น แต่ “วัตถุดิบ” ที่ใช้ก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทั้งเนื้อสัมผัส กลิ่น และรสชาติของโดนัทแต่ละชิ้น หากเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและเหมาะสม โดนัทของคุณจะโดดเด่นเหนือคู่แข่งและสามารถสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น มาดูกันว่าวัตถุดิบหลักอะไรบ้างที่ช่วยยกระดับรสชาติของโดนัทให้มีความอร่อยแบบมืออาชีพ

1. แป้งสาลี – โครงสร้างหลักของโดนัท

แป้งสาลี เป็นวัตถุดิบหลักที่ทำหน้าที่เป็น “โครงสร้าง” ของโดนัท การเลือกประเภทของแป้งมีผลอย่างมากต่อเนื้อสัมผัสของขนม โดยทั่วไปจะนิยมใช้ แป้งสาลีอเนกประสงค์ หรือ แป้งสาลีสำหรับขนมปัง เนื่องจากมีปริมาณกลูเตนพอเหมาะ เมื่อผสมกับของเหลวและผ่านการนวด กลูเตนจะสร้างโครงตาข่ายที่กักเก็บอากาศและไอน้ำ ทำให้แป้งขึ้นฟูได้ดีและเนื้อขนมนุ่มหนึบ ถ้าใช้แป้งที่กลูเตนต่ำเกินไป เนื้อโดนัทอาจแบน เหนียว หรือไม่อยู่ทรง แต่ถ้าใช้แป้งที่กลูเตนสูงเกินไป โดนัทอาจแข็งหรือเคี้ยวเหนียวเกินพอดี

เคล็ดลับ: เลือกแป้งที่มีโปรตีนอยู่ในช่วง 9.5–11.5% เพื่อความสมดุลระหว่างความฟูและความนุ่ม หากอยากได้เนื้อสัมผัสที่เบาเพิ่มขึ้น อาจผสมแป้งเค้กเล็กน้อย (10–20%) เข้ากับแป้งขนมปัง

2. นมข้นจืด – เพิ่มความมันและความเนียนนุ่มให้กับโดนัท

นมข้นจืดถือเป็นวัตถุดิบหลักที่ช่วยให้เนื้อของโดนัทมีความเนียนนุ่ม และรสชาติกลมกล่อมโดยไม่หวานเกินไป ด้วยคุณสมบัติที่ให้ความมันและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับแป้งโดนัท ทำให้เมื่อทอดออกมาแล้ว เนื้อสัมผัสของโดนัทจะนุ่มฟูและไม่แห้งกระด้าง

เคล็ดลับ: หากต้องการให้โดนัทคงความนุ่มได้นานขึ้นหลังจากทอด ควรใส่นมข้นจืดในสัดส่วนที่เหมาะสมในสูตรแป้ง หากเพิ่มปริมาณมากเกินไป แป้งอาจจะนิ่มเกินจนขึ้นรูปยาก จึงต้องระวังเรื่องความสมดุลของของเหลวโดยรวมในสูตร

ผลิตภัณฑ์นมข้นจืด นกเหยี่ยว ฟอลคอน ตอบโจทย์ ทกเมนเบเกอรีเพื่อมืออาชีพ ด้วยเนื้อนมเข้มข้นถึง 11% และเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มนม จึงมีความมันเนยหรือมีไขมันนม ช่วยเพิ่มความหอมนม ทำให้เนื้อโดนัทนุ่มฟู ชุ่มชื้น และช่วยเติมความอร่อยกลมกล่อม ละมุนลิ้น ให้กับเนื้อโดนัททุกประเภทด้วย

3. ข้นหวาน – เพิ่มความหวานละมุนและกลิ่นหอมน่ากิน

ข้นหวานไม่เพียงแต่ใช้เพิ่มรสชาติหวานให้กับตัวแป้งโดนัทเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ทำให้โดนัทมีความน่าทานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมของไส้ หรือท็อปปิ้ง เช่น ราดบนโดนัทแล้วโรยหน้าด้วยขนมปังป่น ไอซิ่ง หรือถั่วบดเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้เมนู

เคล็ดลับ: เลือกใช้ข้นหวานคุณภาพดี สีไม่คล้ำ และไม่หวานแหลมจนเกินไป เพื่อคงรสชาติที่สมดุลในโดนัท

ตัวช่วยในการเพิ่มความหอมมันนม กลมกล่อม อย่างข้นหวาน ฟอลคอนถุงบีบนั้นเป็นอีกหนึ่งไอเท็มหลักที่เชฟและร้านเบเกอรีชี้นนั้นเลือกใช้ เนื่องจากมีโปรตีนนม 1.7% จะทำให้รสชาติกลมกล่อม หวานมัน สามารถใช้แทนน้ำตาลทรายได้โดยตรง ลดโอกาสการตกผลึกของน้ำตาลได้เป็นอย่างดี จะทำให้โดนัทที่ได้มีเนื้อเนียน ไม่เสียรสสัมผัส นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของข้นหวานของเราก็คือ สีของเนื้อนมที่มีความขาวกว่า จึงทำให้สีสันของซอสต่างๆ ที่ใช้ตกแต่งหรือเพิ่มรสชาติให้โดนัทดูสวยงาม น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

4. เนยสด – เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม

เนยสดเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมละมุนให้กับโดนัท โดยเฉพาะขณะทอด กลิ่นของเนยจะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ทันที ส่วนไข่ไก่จะช่วยให้เนื้อโดนัทมีความยืดหยุ่น ไม่แตกหรือร่วนง่าย และยังช่วยให้สีของแป้งหลังทอดมีความสวยน่ารับประทาน นอกจากนี้ ไขมันในเนยยังช่วยพา “รสชาติ” ให้กระจายตัวได้ดีในเนื้อแป้ง ทำให้โดนัทมีรสกลมกล่อม ละมุนในทุกคำ

เคล็ดลับ: เลือกใช้ เนยแท้ชนิดจืด แทนมาการีนหรือเนยผสม เพราะเนยแท้มีโครงสร้างไขมันธรรมชาติที่ให้กลิ่นและรสละมุนกว่า ควรใส่เนยในขั้นตอนสุดท้ายของการนวด เพื่อรักษากลิ่นหอมและไม่ทำให้แป้งร้อนเกินไป

5. ไข่ไก่ – เพิ่มความนุ่มแน่นและเนื้อสัมผัสที่ดี

ไข่ไก่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง “เนื้อสัมผัส” ที่ดีให้กับโดนัท ไข่มีโปรตีนที่ช่วยเสริมโครงสร้างของแป้ง ทำให้เนื้อโดนัทมีความยืดหยุ่น นุ่มแน่น และไม่ร่วนแตกง่ายเมื่อนำไปทอด นอกจากนี้ ไข่ยังช่วยให้แป้งขึ้นฟูได้ดี และให้สีของเนื้อขนมดูนวลน่ารับประทานมากขึ้น ไข่ไก่ยังมีเลซิติน ซึ่งช่วยในการผสมเนยและของเหลวอื่นๆ ให้เข้ากันได้ดี ทำให้เนื้อแป้งเนียนและเหนียวนุ่มมากขึ้น

เคล็ดลับ: เลือกใช้ไข่ไก่สดใหม่ในอุณหภูมิห้อง จะช่วยให้ผสมเข้ากับแป้งและเนยได้ดี และทำให้โดนัทขึ้นฟูสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้ไข่แช่เย็นตรงๆ เพราะจะทำให้เนยแข็งตัวและแป้งไม่ขึ้น

3 จุดขาย โดนัท

ประเภทของ “โดนัท” ที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ

ประเภทของโดนัท

โดนัท ไม่ได้เป็นเพียงขนมแป้งทอดที่โรยน้ำตาลหรือราดช็อกโกแลตเท่านั้น แต่ยังเป็นสินค้าที่สามารถพัฒนาและแตกไลน์ได้หลากหลายระดับ โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดเบเกอรี่แข่งขันกันด้วยคุณภาพ ไอเดีย และประสบการณ์การบริโภค ดังนั้น การเข้าใจ “การแบ่งประเภทของโดนัท” จึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่อยากสร้างแบรนด์ให้ชัด และวางราคาขายได้อย่างเหมาะสม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักโดนัททั้ง 4 ระดับ ตั้งแต่กลุ่มแมสไปจนถึงสายหรู พร้อมแนะแนวทางเลือก วัตถุดิบ และ แนวคิดการพัฒนาสูตร ให้เหมาะกับแต่ละระดับอย่างตรงจุด

1. โดนัทราคาประหยัด

มาเริ่มกันที่โดนัทที่มีราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้บริโภคทั่วไป เด็กนักเรียน หรือคนทำงานที่ต้องการของหวานในราคาสบายกระเป๋า ราคาขายมักอยู่ที่ 10–20 บาทต่อชิ้น โดยโดนัทประเภทนี้ส่วนมาจะเลือกใช้วัตถุดิบที่มีต้นทุนไม่สูงนัก เช่น การใช้มาการีนแทนเนยแท้ หรือใช้ผงฟูแทนยีสต์ เพื่อประหยัดต้นทุนและความรวดเร็วในการผลิต ส่วนไส้หรือหน้าโดนัทก็จะเป็นแบบพื้นฐาน เช่น น้ำตาล, ผงโอวัลติน หรือเคลือบหน้าด้วยช็อกโกแลตที่มีสัดส่วนของไขมันพืชมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นโดนัทที่เน้นในเรื่องปริมาณที่คุ้มค่า ในราคาย่อมเยา

2. โดนัทแบรนด์ทั่วไป หรือ แบรนด์ Mass

โดนัทในระดับนี้เป็นที่นิยมในร้านเบเกอรี่ขนาดเล็กจนถึง Chains Brand เช่น Mister Donut หรือ Dunkin’ Donut โดยมีราคาขายเฉลี่ย 25–50 บาทต่อชิ้น จุดเด่นคือความสมดุลระหว่างรสชาติ คุณภาพ และความคุ้มค่า โดยมักจะเลือกใช้วัตถุดิบระดับกลาง เช่น แป้งอเนกประสงค์ เนยผสมมาการีน ไข่สด และนมข้นจืดที่ช่วยเพิ่มความหอมมัน เนื้อโดนัทจะมีความนุ่มพอประมาณจากการใช้ยีสต์ ส่วนหน้าโดนัทหรือไส้ข้างในก็เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ไส้คัสตาร์ด, แยมสตรอเบอร์รี่, หรือช็อกโกแลตครีม

3. โดนัทพรีเมียม

สำหรับโดนัทในกลุ่ม Premium นี้ จะมีราคาที่สูงขึ้น อยู่ที่ประมาณ 55–100 บาทต่อชิ้น โดยจะมีความใส่ใจคุณภาพของวัตถุดิบและเน้นในเรื่องประสบการณ์การกินของลูกค้ามากขึ้น เช่น ใช้แป้งนำเข้าจากญี่ปุ่นหรือฝรั่งเศส, เนยสดแท้, ไข่แดงล้วน, นมข้นจืด และข้นหวานคุณภาพดีเพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่หอมนุ่มเป็นพิเศษ ส่วนไส้ด้านในจะเป็นแบบโฮมเมด เช่น ซอสมัทฉะ ครีมเบอร์รี่ หรือพิสตาชิโอ ตัวโดนัทเองก็มีการตกแต่งแบบใส่ใจในรายละเอียด เช่น ลวดลายการเกลซเฉพาะตัว หรือท็อปปิ้งผลไม้สด ซึ่งนอกจากนี้บางแบรนด์ยังมี storytelling ที่บ่งบอกความตั้งใจของผู้ผลิตอีกด้วย

4. โดนัทคราฟต์ หรือ โดนัทเฉพาะทาง (Tailor-Made)

กลุ่ม Luxury Donut ถือว่าอยู่ในระดับบนสุดของตลาดโดนัทเน้นไปที่ลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์แบบพรีเมียม ราคาขายส่วนมากมักจะเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไปต่อชิ้น โดยใช้วัตถุดิบระดับ Rare หรือ Imported เช่น เนย AOP จากฝรั่งเศส นมออร์แกนิก วานิลลาแท้จากมาดากัสการ์ และไข่ออร์แกนิก ไปจนถึงเนื้อโดนัทที่มีกรรมวิธีในการทำที่ซับซ้อน เช่น ทำจาก Brioche หรือ Sourdough ที่ต้องใช้เวลาหมักข้ามคืน เป็นต้น สำหรับไส้และหน้าของโดนัทในกลุ่มนี้จะถูกออกแบบอย่างสร้างสรรค์ และมีความสวยงาม เช่น ไส้วนิลลาทรัฟเฟิล, ดาร์กช็อกโกแลตเบลเยียม หรือท็อปปิ้งด้วยทองคำเปลว ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้ขายแค่รสชาติ แต่ขาย แบรนด์, การออกแบบ, ความหรูหรา และ Storytelling ที่แตกต่าง ซึ่งการเลือกประเภทของโดนัทให้เหมาะกับแนวทางธุรกิจ จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

เทรนด์ “โดนัท” ปี 2025 และแนวโน้มที่จะเปลี่ยนอนาคตวงการขนมหวาน

เจาะลึกเทรนด์ โดนัท

แม้ว่า “โดนัท” จะเป็นขนมสุดคลาสสิกที่อยู่คู่กับร้านเบเกอรี่มานาน แต่ในปี 2025 เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของโดนัท ทั้งในเรื่องของวัตถุดิบ รูปแบบการนำเสนอ และแนวทางการตลาด จากขนมธรรมดาสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์และตัวตนของผู้บริโภคมากขึ้น การรู้จักเทรนด์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้คุณสร้างสรรค์เมนูที่โดดเด่น แต่ยังเป็นโอกาสในการเจาะตลาดใหม่ๆ ได้ก่อนใคร ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของร้านขนม คาเฟ่ หรือคนที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจโดนัท การรู้เท่าทัน “เทรนด์โดนัท” ที่กำลังมาแรง จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาสินค้าให้โดดเด่นและทันกระแสตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูไปพร้อมกันเลยว่ามีเทรนอะไรที่น่าสนใจบ้าง

1. โดนัทสุขภาพ – ตอบโจทย์สายเฮลตี้แบบไม่ต้องรู้สึกผิด

เทรนด์ “โดนัทสุขภาพ” กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องน้ำตาล แป้ง และแคลอรี ร้านโดนัทหลายแห่งเริ่มหันมาใช้แป้งธัญพืช แป้งอัลมอนด์ หรือแป้งโฮลวีตแทนแป้งสาลีขัดขาว พร้อมลดปริมาณน้ำตาล และเปลี่ยนมาใช้น้ำตาลจากธรรมชาติ เช่น หญ้าหวาน หรือไซลิทอล

จุดเด่น: โดนัทสุขภาพยังคงความอร่อยไว้ได้โดยไม่สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้กลายเป็นตัวเลือกใหม่ที่เหมาะกับสายฟิตเนสและคนรักสุขภาพ

2. โดนัทคราฟต์ – งานศิลป์ในรูปแบบของขนม

“โดนัทคราฟต์” คือการยกระดับโดนัทจากของหวานธรรมดาไปสู่การเป็นงานศิลปะบนจาน ด้วยการใช้วัตถุดิบพรีเมียม เช่น ช็อกโกแลตแท้ วนิลาแท้ หรือผลไม้สด และแต่งหน้าด้วยลวดลายเฉพาะตัวที่สื่อถึงอารมณ์หรือเทศกาล ร้านโดนัทสไตล์คราฟต์มักเน้นการทำสดใหม่ในแต่ละวัน ไม่ใช้วัตถุกันเสีย และให้ความสำคัญกับเรื่องราวเบื้องหลัง เช่น “แหล่งที่มาของวัตถุดิบ” หรือ “แรงบันดาลใจของแต่ละรสชาติ”

จุดเด่น: เหมาะกับลูกค้าที่ชอบศิลปะ หรือความสวยงาม ชอบแชร์ภาพขนมลงโซเชียล และต้องการประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์

3. โดนัทรสชาติท้องถิ่น – สะท้อนวัฒนธรรมผ่านของหวาน

ในยุคที่ลูกค้ากำลังมองหาความแปลกใหม่และความเป็น “Local” โดนัทที่ดัดแปลงรสชาติให้เข้ากับอาหารหรือของหวานท้องถิ่นจึงกลายเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง เช่น โดนัทไส้ข้าวเหนียวมะม่วง โดนัทซอสมะพร้าวชาไทย โดนัทลอดช่องนมสด หรือแม้กระทั่ง โดนัทไส้ทุเรียน

จุดเด่น: โดนัทรสชาติท้องถิ่นสามารถสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ และช่วยให้แบรนด์สามารถทำการตลาดแบบ “ภูมิภาค” ได้ง่ายขึ้น

4. โดนัทแบบคาว (Savory Donuts) – ขนมหวานที่ไม่หวานอีกต่อไป

โดนัทไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความหวานอีกต่อไป เพราะ “โดนัทคาว” หรือ Savory Donuts กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในคาเฟ่ฟิวชันหรือร้านอาหารสมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น โดนัทแฮมชีส โดนัทไวท์ซอส หรือแม้แต่โดนัทเบคอนทรัฟเฟิล ที่มีความหอมมันและรสจัดจ้าน ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการทางเลือกใหม่ๆ ไม่ซ้ำซาก

จุดเด่น: โดนัทคาวเหมาะสำหรับเสิร์ฟเป็นของว่าง มื้อเช้า หรือเมนูอาหารจานด่วนที่สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่คำแรก

โดน โอกาสทองของธุรกิจเบเกอรีในยุคใหม่

สรุป: โดนัท โอกาสทองของธุรกิจเบเกอรีในยุคใหม่

โดนัทไม่ได้เป็นเพียงขนมหวานยอดนิยมที่ครองใจผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย แต่ยังเป็นหนึ่งในโมเดลของธุรกิจเบเกอรี่ที่สามารถสร้างกำไรได้จริง จุดเด่นอยู่ที่การใช้วัตถุดิบพื้นฐานและมีต้นทุนการผลิตต่ำ จึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังปรับแต่งสูตร รสชาติ และรูปลักษณ์ให้หลากหลายตามกระแสและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจเบเกอรี่ให้เติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจโดนัทคือ “วัตถุดิบ” การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับรสชาติ แต่ยังเป็นตัวตัดสินว่าโดนัทของคุณจะกลับมาซื้อซ้ำหรือไม่ วัตถุดิบสำคัญอย่าง นมข้นจืด และ ข้นหวาน ตรานกเหยี่ยว ฟอลคอน จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของทั้งมือใหม่หัดอบและผู้ประกอบการมืออาชีพ เพราะช่วยเพิ่มความละมุนให้แป้งโดนัท และสร้างรสหวานมันที่ลงตัวแบบมือโปร

นมข้นจืด นกเหยี่ยว ฟอลคอน

  • – มีเนื้อนมเข้มข้นถึง 11 % แต่ไม่กระทบสีของโดนัท
  • – ตัวช่วยที่ทำให้โดนัทนุ่มฟู เนื้อเนียนฉ่ำน่ารับประทาน
  • – เพิ่มรสชาติให้หอมมัน อร่อย กลมกล่อม

ข้นหวาน ฟอลคอนถุงบีบ

  • – มีโปรตีนนม 1.7% ช่วยเพิ่มให้รสชาติ ของโดนัทกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
  • – ใช้แทนน้ำตาลทราย ช่วยลดปัญหา น้ำตาลตกผลึกได้เป็นอย่างดี
  • – สีเนื้อนมขาวกว่า ทำให้โดนัท ดูสวยงามน่าทานยิ่งขึ้น

หรือถ้าผู้ประกอบการท่านไหน อยากได้ไอเดียในการทำโดนัทรสชาติใหม่ๆ ที่ทำง่าย แต่สร้างรายได้ให้ปัง ก็สามารถเข้าไปดูสูตรโดนัทหลากหลายสไตล์ แล้วเซฟไปทำตามกันได้เลย นกเหยี่ยว ฟอลคอล เรารวมสูตรเด็ดสุดครีเอทไว้ให้แล้ว ที่นี่

เนื้อหาที่น่าสนใจ

นกเหยี่ยว ฟอลคอน is part of FrieslandCampina Professional